สถานการณ์ปัจจุบัน ภัยคุกคามทางไซเบอร์ เกิดขึ้นต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้น ทำให้เกิดความเสียหายได้อย่างไม่คาดคิด.
สถานการณ์ภัยคุกคามไซเบอร์กับธุรกิจดิจิตอล
AI จะมีการเติบโตอย่างมาในตลาดความปลอดภัยทางไซเบอร์ซึ่งจะมีมูลค่าตลาดถึง 46.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2570
สถานการณ์ในปัจจุบัน
ปัจจุบันโลกธุรกิจถือว่าเป็นโลกธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องใช้ระบบ และช่องทางดิจิทัลเป็นกลไกหลักขับเคลื่อนการดำเนินงาน (Digital Business) และเติบโตตามแผนธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มี กฎระเบียบที่ออกมา เพื่อการเป็นบริษัทธรรมาภิบาลที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อแผนธุรกิจของบริษัทโดยตรง กลไกขับเคลื่อนธุรกิจด้วยระบบดิจิทัลนั้น ข้อมูลทางดิจิทัล ถือว่าเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ ซึ่งเห็นได้จากการลงทุนพัฒนาของหลายๆ องค์กรในด้านการนำข้อมูลทางดิจิทัลมาใช้ปีหนึ่ง มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ
ธุรกิจกับภัยคุกคาม
แต่ทว่ายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่มาคู่กับการพัฒนาธุรกิจด้วยระบบดิจิทัล คือ การกระทำให้ระบบดิจิทัล หยุดชะงักหรือมีความเสียหายไม่สามารถดำเนินงานธุรกิจต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความต้องการ หรือเงินลงทุนในเรื่องนั้นๆ ภัยคุกคามอย่างหนึ่งที่กระทบต่อระบบดิจิทัลของธุรกิจ คือ ภัยคุกคาม กับ ข้อมูลทางดิจิทัล (Digital Data) หรือ ที่เรียกว่า “ภัยคุกคามทางไซเบอร์” (Cyber Threat)
แนวทางการป้องกัน
นับวันจะมีอัตราเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณการเกิด และ ปริมาณของผลกระทบ ที่มีมูลค่าต้นทุนหรือโอกาสทางธุรกิจของบริษัท ตั้งแต่หลักแสนบาท ไปจนหลักหลายร้อยล้านบาท สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆ องค์กรที่ใช้ข้อมูลทางดิจิทัลในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อดำเนินธุรกิจ และถึงในหน่วยงานรัฐที่พยายามออกมาตรการหรือกฎหมายต่างๆ เพื่อควบคุมภัยคุกคามทางไซเบอร์ แต่อีกด้านหนึ่ง องค์กรหรือบริษัทก็จำเป็นต้องปรับตัว และลงทุนปรับปรุงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลดิจิทัลอีกด้วย.
กลุ่มเป้าหมาย
เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์เกิดขึ้นและโจมตีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มบริการการแพทย์หรือธุรกิจโรงพยาบาล (Medical/Healthcare Sector) กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมยุคใหม่ 4.0 (Industry 4.0) และ กลุ่มสถาบันการเงินทุนการประกัน (FSI : Financial/Security/Insurance Sector).
ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
หลายๆ หน่วยงานได้ทำการวิจัยแล้วพบว่า มีสัดส่วนถูกโจมตีสูงและโดยเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มบริการหรือธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่นในปัจจุบัน มีข่าวมากมาย ที่แจ้งว่า องค์กรหรือบริษัท ระบบเครื่องแม่ข่ายที่บริการ ฐานข้อมูลหลักธุรกิจ ได้ถูกโจมตีทางภัยคุกคามไซเบอร์ไม่สามารถใช้งานได้.
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
ผลกระทบทำให้ต้องหยุดการทำงานหรือหยุดบริการลูกค้า และโดนถูกเรียกค่าไถ่แลกกับการกู้คืนข้อมูล (Ransomware) ทำให้เกิดความเสียหายและเพิ่มต้นทุนโดยตรงต่อองค์กรทั้งในระยะสั้น อาทิเช่น ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดการหรือสำรองไว้ และระยะยาว ในส่วนของภาพลักษณ์ ขาดความน่าเชื่อถือและความสามารถในการแข่งขันขององค์กรอีกด้วย.